แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู แพทย์ชะลอวัย และฟื้นฟูสุขภาพ
 

 สตรีกับความงาม….เป็นของคู่กันมามากกว่า 4,000 ปี
จวนจนปัจจุบันก็มีคลินิกความงาม และเครื่องสำอางประทินผิวเกินขึ้นเป็นดอกเห็ด ถ้านับเฉพาะสินค้าและคลินิกเกรดพรีเมี่ยมที่มีความปลอดภัยสูง (หน้าไม่พังหลังใช้) และประสิทธิภาพชัดเจน (ก่อน-หลังใช้ เห็นความแตกต่างจริง) คงมีความแตกต่างกันไม่มากเท่าใด โดยเฉพาะสิ่งที่เกือบจะเหมือนกันคือสนนราคา ที่ว่ากันเป็นหลักหมื่น หลักแสน

ผู้หญิงเรานี่ก็แปลกเป็นห่วงเรื่องความงามมากกว่าสุขภาพ
เมื่อ 4 ปีก่อนผมรู้จักสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ที่ร้านกาแฟอายุ 24 ปี เราคุยกันถูกคอจึงได้รู้ว่าเธอพึ่งคลอดลูกอายุได้ 3 เดือน และเธอดื่มกาแฟมากถึงวันละ 6 แก้ว ผมจึงเตือนเธอว่ากินมากขนาดนี้อาจเกิดผลเสีย เช่น กดสมองส่วนกลาง  การดูดซึมสารอาหารผิดปกติ และเสี่ยงต่อกระดูกพรุนก่อนวัยอันควร

ต่อมาเจออีกเธอก็ดื่มกาแฟ 6 แก้วต่อวันเหมือนเดิม ผมก็เลยเปลี่ยนมุขใหม่ บอกว่าผลเสียของการแฟถ้าดื่มมากเกินวันละ 4 แก้ว  หน้าจะเหี่ยวนะครับ (เพราะคาเฟอีนกระตุ้นให้ร่างกายขับน้ำออกมามากเซลจะขาดน้ำ) เท่านั้นแหละ เธอยอมลดลงมาเหลือวันละ 4 แก้วทันที

เห็นไหมล่ะครับ  ผู้หญิงให้ความสำคัญกับความงามมากกว่าสุขภาพจริงๆ…. 

คลินิกความงามจึงเกิดขึ้นมากมาย เราคงเห็นเฟรนซ์ไซน์คลินิกความงามแห่งหนึ่งเปิดไปแล้วกว่า 100 สาขา  และก็ยังมีคลินิกความงามเกิดใหม่อยู่ตลอดเวลา  

ปัจจุบันผมทำคลินิกความงามแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ มีลูกค้าเข้ามายอมจ่ายครั้งละหลายหมื่น ถึงหลักแสนบาทอย่างง่ายดาย

ต่างกับคลินิกการแพทย์บูรณาการอีกแห่งหนึ่งของผมแถวเพลินจิต  ผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรังหรือร้ายแรง  กว่าจะจ่ายค่ารักษาหลักพันหลักหมื่นได้ต้องปรึกษากันแล้ว 3 วัน 8 เดือน

ผมมีตัวอย่างค่าบริการทรีทเม้นท์ ใบหน้าตามคลินิกความงามที่น่าเชื่อถือ ย้ำนะครับว่าไม่ใช่เกรดเหมือนสินค้าแบกะดินราคาถูกๆ ที่ทำหน้าให้ลูกค้าแล้วหน้าเบี้ยว หน้าบวมหน้าทะลุแก้ม กลับไปหาก็ปัดความรับผิดชอบ หรือปิดคลินิกหนีไปเลย

คลินิกเกรดดีๆจะใช้สินค้าคุณภาพมาตรฐาน แพทย์มีความเชียวชาญ และแน่นอนราคาก็(สูง)เหมาะสมกับบริการ

ขอยกตัวอย่างเฉพาะที่นิยมทำกันนะครับ (เป็นราคาที่ทำทั้งใบหน้า-ลำคอ)

1. ยิงเลเซอร์ ฮิตมานานหลายปี คอร์สละ 2x,xxx – 3x,xxx บาทต้องทำต่อเนื่อง ครั้งเดียวไม่ได้ผล  หลังทำหน้าจะแดงเหมือนตากแดดจัดๆมาและ อาจห้ามออกนอกบ้าน 1-2 วัน
2. ฉีด Botox สุดฮิตเลยใครๆ ก็รู้จัก ราคา 3x,xxx – 4x,xxx บาทอยู่ได้ 3 เดือน เต็มที่ 6 เดือนต้องฉีดซ้ำ  ภาวะแทรกซ้อนคือหน้าเบี้ยว หลังตาตก กลืนลำบาก เป็นต้น
3. ฉีด filler 3x,xxx – 5x,xxx บาท เจ็บมาก ภาวะแทรกซ้อนคือ ไม่ได้รูปทรงตามที่ต้องการ
4. ทำ Thermage มีให้บริการในคลินิกชั้นนำเท่านั้น 99,xxx – 129,xxx บาท อยู่ได้ 1-2 ปี
5. ร้อยไหมยกกระชับใบหน้า 12x,xxx – 15x,xxx บาท ฝีมือแพทย์ที่ทำสำคัญมากๆ อาจทำซ้ำใน 6 เดือน – 2 ปี ถ้าแพทย์ที่ไม่ชำนาญอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนมากมาย ตั้งแต่เริ่มทำเลยเช่น เจ็บ ระบมมาก เขียวช้ำ ทั้งขณะทำและต่ออีกหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ ไหมที่แก้มไปทะลุถึงในปาก เป็นต้น
6. ฉีด Stem cell เฉพาะใบหน้า 1xx,xxx – 25x,xxx บาท ต้องทำในคลินิกที่น่าเชื่อถือได้จริงๆ ถ้ามีอิสรภาพทางการเงินสูงสามารถทำซ้ำได้ใน 1-3 ปี

เห็นไหมครับว่าราคา แต่ละทรีทเม้นท์มนุษย์เงินเดือนเพศหญิง ที่แม้รักความงามเหมือนกัน ก็เอื้อมถึงบริการได้ยากยิ่ง

บางครั้งก็เกิดผลแทรกซ้อนไม่พึงประสงค์มากมาย และทุกบริการก็ต้องกลับมาทำซ้ำอยู่ดี (ใช้เงินมหาศาลเหมือนเดิม) 

แต่ถ้าวันนี้เรามีนวัตกรรมที่ราคาแค่หลักพัน ไม่ต้องเจ็บตัว แทบจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไรเลย คงสภาพต่อเนื่องได้ตราบเท่าที่เรายังใช้อยู่ น่าสนใจมั๊ยล่ะครับ 

Agel GLO คือคำตอบครับ
ผมขอเรียกว่า “นวัตกรรมดูแลผิวพรรณที่กินได้” ตัวเดียวในโลก
บรรจุในซองรูปแบบเซ็กซี่….. สีสันสะดุดตาน่าเชื่อถือ ด้วยแนวคิด “ง่าย เร็ว ดี”

• พกพาง่าย สะดวกในทุกๆ ที่
• ดูดซึมเข้ากระแสเลือดไปบำรุงผิวพรรณอย่างรวดเร็วภายใน 3-15 นาที
• ได้ผลดีเยี่ยม ผลลัพธ์ชัดเจน เห็นผลภายในเวลาไม่ถึงเดือน อุดมด้วยสารอาหารจากธรรมชาติ 100% ที่มีสรรพคุณดูแลบำรุงผิวพรรณจากภายใน ให้สดใสสู่ภายนอก ได้แก่ สารสกัดเมล็ดองุ่น, น้ำมันเมล็ดชาเขียว, ว่านหางจระเข้, เลซิธิน, ลูทีน, อะเซเลอลาเซอรี่, หญ้าหางม้า, โคเอนไซม์คิวเทน, ขมิ้น, โทโคไทรอีนอล

สรุปคุณประโยชน์สำคัญ 3 ประการจาก Agel GLO คือ 

1. ให้ความชุ่มชื่น กับผิวพรรณโดยช่วยให้เซลดูดซับน้ำได้ดีขึ้น ทำให้ ผิว ผม เล็บ แข็งแรงขึ้น
2. บำรุง สุขภาพผิวโดยเพิ่มการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเต่งตึง ลดริ้วรอย ดูเรียบเนียน
3. ปกป้อง ผิวพรรณจากมลพิษและแสงแดด ทำให้ผิวเยาว์วัย แลดูสดใส

ดังนั้น Agel GLO คือคำตอบของการดูแลสุขภาพผิวของคนยุคใหม่ที่ “ง่าย เร็ว และดี”