เจาะลึก โรคของตาและการบำรุงสายตา

เจาะลึกโรคของตา และการบำรุงสายตา

ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตา นับว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนเคยประสบปัญหากันมา
ไม่ว่าจะเป็นตาแห้ง กล้ามเนื้อรอบดวงตาอ่อนล้า การติดเชื้อที่ตา หรือความผิดปกติอื่นที่รุนแรง

อาทิเช่น ต้อกระจก หรือจอประสาทตาเสื่อมจนถึงขั้นตาบอดมองไม่เห็น
ด้วยเหตุนี้เราจึงอยากอธิบายความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโรคตา รวมไปถึงกลุ่มอาการต่างๆ ดังแสดงตารางนี้

VDO ให้ข้อมูลของเจล SEE โดย Dr.Joel ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์

 

โรคสายตาสั้น (Nearsighted Myopia)

 ลักษณะของโรค อาการแสดงหรืออาการเตือน สาเหตุของโรค
การมองเห็นสิ่งของในระยะไกลไม่ชัด
  • ต้องเพ่งมองสิ่งของหรือเข้าใกล้อย่างมาก เพื่อให้เห็นภาพหรือสิ่งของให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • ต้องนั่งใกล้จอโทรทัศน์ กระดาน หรือถือหนังสือเข้ามาใกล้ตา
การใช้สายตาเพ่งมากเกินไป ไม่ว่าดูโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์ทำให้ต้องโฟกัสไปที่ภาพนั้นเป็นเวลานาน

 short eye-sight

สายตายาว (Farsighted, Hyperopia)

 ลักษณะของโรค อาการแสดงหรืออาการเตือน สาเหตุของโรค
การมองเห็นสิ่งของในระยะใกล้ไม่ชัด
  • ปวดศีรษะและปวดตึงบริเวณดวงตา โดยเฉพาะหลักการเพ่งอ่านตัวหนังสือในระยะใกล้
โดยปกติเกี่ยวข้องกับอายุและกรรมพันธ์


long eyesight

 

โรคต้อกระจก (Cataract)

 ลักษณะของโรค อาการแสดงหรืออาการเตือน สาเหตุของโรค
เลนส์แก้วตามีความขุ่นมัว
ทำให้แสงผ่านเข้าไปที่จอประสาทตาได้น้อยลง 
  • การมองเห็นภาพไม่ชัด เมื่ออยู่ในที่มีแสงจ้า แต่จะเห็นชัดเมื่อมีแสงน้อยแทน
  • มองเห็นภาพคล้ายมีหมอกมาบังตลอดเวลา โดยเฉพาะบริเวณตรงกลางภาพ
  • อายุเกินกว่า 60 ปีขึ้นไป
  • การได้รับรังสียูวีจากแสงแดดจัดบ่อยๆ
  • การทานยาสเตอรอยด์
  • การขาดสารอาหาร

 

โรคต้อหิน (Glaucoma)

 ลักษณะของโรค อาการแสดงหรืออาการเตือน สาเหตุของโรค
เส้นประสาทตาถูกทำลาย
และความดันในลูกตาสูงขึ้น
  • ปวดตาและปวดศีรษะอย่างมาก
  • คลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่า
  • โดยปกติเกี่ยวข้องกับอายุและกรรมพันธ์
  • ขอบเขตในการมองเห็นแคบลง
  • อาจมองเห็นแถบสายรุ้งเมื่อจ้องมองแสง

short eye sight

 โรคจอประสาทตาเสื่อม (Macular degeneration)

 ลักษณะของโรค อาการแสดงหรืออาการเตือน สาเหตุของโรค
บริเวณจุดกลางรับภาพของจอประสาทตา
ที่เรียกว่า Macula เสื่อมลง
  • มองเห็นตรงกลางภาพไม่ชัดเจน พร่ามัว
  • อาจมองเห็นเหมือนมีจุดดำบังตรงกลางหรือเห็นภาพและเน้นตรงนิดเบี้ยวไป
  • ไม่สามารถสนด้ายเข้าเข็มได้
  • ความเสื่อมของเซลล์จากอายุที่มากขึ้น
  • การขาดสารอาหาร
  • การสูบบุหรี่จัด

 

โรคดวงตาเมื่อยล้า (Tired eyes )

ลักษณะของโรค อาการแสดงหรืออาการเตือน สาเหตุของโรค 
ปวดเมื่อย
บริเวณกล้ามเนื้อรอบดวงตา
  • รู้สึกตาหนักๆ และปวดหน่วงๆ
  • มีอาการระคายเคือง ตาแดง น้ำตาไหล
  • อาจพบความผิดปกติในการมองเห็น เช่น เห็นภาพกร่ามัว หรือเห็นซ้อน
  • นอนไม่พอ
  • การใช้สายตาต่อเนื่อง เช่น ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ หรือเพ่งจอคอมพิวเตอร์นานติดต่อกันหลายชั่วโมง


โรคตาบอดกลางคืน (Night blindness)

ลักษณะของโรค อาการแสดงหรืออาการเตือน สาเหตุของโรค
มองไม่เห็นเมื่อมีแสงน้อยหรือแสงสลัวๆ
โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
  • มีความผิดปกติในการปรับภาพ เมื่ออยู่ในที่สลัวหรือที่มื
  • ตาแห้ง พร่ามัว
  • อาจปวดศีรษะร่วมด้วย
  • ขาดวิตามิน เอ
  • มีประวัติเป็นต้อกระจกหรือมีสายตาสั้นอยู่ก่อน

 

การถนอมและบำรุงรักษาดวงตา

beautiful-eye sight

นอกเหนือจากปัจจัยเสี่ยงที่เกิดจากกรรมพันธ์และอายุแล้ว
เราสามารถถนอมดวงตาโดยการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตา
อาทิเช่น การสวมใส่แว่นตากันแสงยูวีทุกครั้ง

เมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมบริเวณที่มีแสงแดดแรงๆ
หลีกเลี่ยงการใช้ดวงตา มากเกินไป หลีกเลียงการดูโทรทัศน์
หรือเล่นเกมส์ผ่านทางจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันหลายชั่วโมง

Lutine helps eyesight

นอกจากนี้การให้ความสำคัญกับสารอาหารในชีวิตประจำวัน
ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยถนอมดวงตาให้ใช้งานได้อีกยาวนาน

สำหรับสารธรรมชาติเหล่านั้นได้แก่
สารอาหารเพื่อสุขภาพดวงตาจากผลวิจัยทางการแพทย์ที่มีมายาวนาน

1.วิตามินและแร่ธาติชนิดรวม (Vitamins and Minerals)

vittamin & minerals
วิตามินที่ช่วยในการทำงานของดวงตาลำดับต้นๆ
คงหนีไม่พ้น วิตามินเอ (Vitamin A) และเบต้า-แคโรทีน (Beta-Carotene)
ซึ่งจำเป็นต่อการมองเห็นโดยเฉพาะเวลากลางคืน

วิตามินเอในรูปของเรตินอล (Retinol)
จะเป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดสีที่เรียกว่าโรดอฟซิน (Rhodopsin)
ซึ่งอยู่ที่จอประสาทตา โรดอฟซินจะมีความไวต่อแสงแม้เพียงเล็กน้อย
จึงจำเป็นอย่างมากในการมองเห็นเวลากลางคืน

นอกจากนี้ วิตามินเอยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดต้อกระจก
ในส่วนของวิตามินบี (Vitamin B)
พบว่าการขาดวิตามิน – ปี12 ( Vitamin-B12)
มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดต้อหิน

นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุสังกะสี (Zinc)
ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งวิตามินเอจากตับไปที่จอประสาทตา
ดังนั้นการขาดธาตุสังกะสี อาจก่อให้เกิดความผิดปกติในการมองเห็น
และเสี่ยงต่อการเกิดต้อกระจกอีกด้วย

2.สารลูทีน (Lutein)



เป็นสารธรรมชาติในกลุ่ม Carotenoids

ซึ่งเป็นรงควัตถุสีเหลืองเข้ม พบได้ในพืชที่มีสีเหลืองรวม
ไปถึงผักใบเขียวเข้มต่างๆ อาทิเช่น ผักโขม ข้าวโพด ดอกดาวเรือง เป็นต้น
และพบที่เซลล์บริเวณ Macula ในจอประสาทตา
ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการมองเห็นภาพที่อยู่ตรงกลางของส่วนรับภาพ

นอกจากนี้ยังช่วยกรองแสงสีน้ำเงิน
ซึ่งเป็นแสงที่ต่างจากสีอื่นตรงที่ว่า แสงสีน้ำเงินจะกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ
ซึ่งเป็นอันตรายต่อจอประสาทตา
เช่น แสงจากหลอดไฟ แสงจากหน้าจอทีวีและคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

นอกจากนี้ลูทีนยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ช่วยปกป้องดวงตาจากอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในดวงตา
ซึ่งจะเป็นตัวทำลายเซลล์รับภาพและทำให้เกิดโรคเกี่ยว
กับจอประสาทตาได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
ขนาดรับประทานที่แนะนำ 20-40 มก.ต่อวัน

3.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ (Berries)

ผลไม้ในกลุ่มนี้ถือว่าเป็นผลไม้ที่ช่วยบำรุงดวงตาอย่างมาก
โดยเฉพาะบิลเบอรร์รี่ (Bilberry)
เนื่องจากมีสารสำคัญอย่าง Anthocyanosides
ที่ช่วยปกป้องผนังหลอดเลือด และหลอดเลือดฝอยเล็กๆ ที่อยู่ในดวงตา
รวมถึงเพิ่มการไหลเวียนเลือดของเส้นเลือดฝอยในตา
นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมาก
ช่วยป้องกันการทำลายจากสารอนุมูลอิสระ

ซึ่งทำให้เกิดความเสื่อมของจอประสาทตา ต้อกระตก และอาหารตาบอดกลางคืน
การรับประทานลิลเบอร์รี่เป็นประจำ
นอกจากจะช่วยในเรื่องของสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว
ยังช่วยทำให้ดวงตาของคุณสดใส มีน้ำหล่อเลี้ยง
แลดูมีสุขภาพดีอยู่เสมออีกด้วย
ขนาดรับประทานที่แนะนำของสารสกัดบิลเบอร์รี่ 60-180 มก.ต่อวัน

4.กรดไขมันจำเป็น (Essential Fatty acid)
สำหรับกรดไขมันโอเมก้า – 3 ชนิด DHA จะเกี่ยวข้องกับการทำงานของสมอง
และระบบประสาทตาที่ดี

โดยปกติน้ำมันชนิดนี้จะพบมากในน้ำมันปลาทะเล (Fish Oil)
ซึ่งช่วยชะลอการเกิดความเสื่อมของจอประสาทตา
ช่วยทำให้ดวงตามีความชุ่มชื้น ป้องกันอาการตาแห้ง
โดยเฉพาะผู้ที่สวมใสคอนแทกส์เลนส์เป็นประจำ

ดังนั้นกรดไขมันจำเป็นดังกล่าว จำมีส่วนช่วยให้ดวงตามีสุขภาพ
ขนาดรับประทานที่แนะนำของ DHA 250-500 มก.ต่อวัน
ทั้งหมดคือสารอาหารจากธรรมชาติที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของดวงตา
รวมไปถึงแนวทางในการปฏิบัติตนเองเพื่อป้องกันความผิดปกติ
ที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตาของคุณ และแน่นอนว่าปัจจัยเหล่านี้
ย่อมช่วยถนอมให้คุณมีดวงตาคู่สวยพร้อมกับสุขภาพของดวงตาที่ดีไปอีกนานแสนนาน

Credit: Live Well Guide Magazine

AGEL_Products210